จัดพอร์ท

อายุแบบเรา “จัดพอร์ท” อย่างไรดีนะ?

หลาย ๆ คนอาจจะมีปัญหาเรื่องการ  “จัดพอร์ท” การลงทุน เพราะไม่รู้ว่าจะทำการกระจายสินทรัพย์ในพอร์ตลงทุนอย่างไร โดยส่วนใหญ่จะแบ่งเป็นสัดส่วนของสินทรัพย์เสี่ยงสูง เช่น หุ้น ต่อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้

ซึ่งกองทุนรวมก็สามารถแบ่งสัดส่วนสินทรัพย์ในตัวกองทุนได้เช่นกัน โดยมากที่ปรึกษาทางการเงินหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจะนิยมให้นักลงทุนแบ่งตามอายุและความเสี่ยงที่รับได้ ซึ่งใช้ได้ตั้งแต่คนเริ่มทำงานไปจนถึงวัยเกษียณ

ดังนั้น ทาง Chulagradeup จะมาช่วยสรุปให้ว่า การจัดพอร์ทของแต่ละช่วงวัยเค้าจัดพอร์ทกันอย่าไร ใครสนใจตามมาอ่านกันต่อได้เลยนะ…

อายุแบบเรา “จัดพอร์ท” อย่างไรดีนะ?

1.ช่วงอายุ 20 – 30+ หรือวัยเริ่มทำงาน ถึง ผู้ใหญ่ตอนต้น – ตอนปลาย
เป็นช่วงที่เอื้อต่อการทดลอง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รวมถึงหารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับตนด้วย เพราะยังมีเวลาให้เรียนรู้ และผิดพลาดได้อีกมาก
ที่ปรึกษาทางการเงินส่วนใหญ่ก็อาจจะแนะนำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ลงทุนในหุ้นในประเทศหรือต่างประเทศทั้งหมดเลยด้วย หากนักลงทุนประเมินความเสี่ยงแล้วสามารถรับความเสี่ยงได้สูง

แต่ก็ไม่ได้แปลว่า นักลงทุนวัยเริ่มทำงานนี้ จะสามารถรับความเสี่ยงได้ ดังนั้น การถือหุ้นที่สัดส่วน 70% ต่อตราสารหนี้ 30% อาจสร้างความสบายใจได้มากกว่า หรือจะปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเป็น 60 หรือ 80 ก็ได้ขึ้นอยู่กับการพร้อมรับความเสี่ยงของแต่ละคน

การลงทุนในหุ้นที่มีสัดส่วนสูงก็อาจเสี่ยงเกินไป โดยมากหากสัดส่วนหุ้นอยู่ที่น้อยกว่า 40% ต่อตราสารหนี้มากกว่า 60% จะเป็นสัดส่วนที่กลางๆ ไม่เสี่ยงมากไป เพราะบางครั้งการลงทุนระยะยาวอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการเพิ่มมูลค่า และอาจทำให้การใช้จ่ายหาความสุขช่วงเกษียณสำราญไม่ราบรื่นอย่างที่ควร

จัดพอร์ท
ช่วงอายุ 40 – 50+ หรือ วัยกลางคน
ถือเป็นจุดสูงสุดของรายได้จากช่องทางต่างๆ และอาจเป็นช่วงที่มีค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ สูงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคนมีครอบครัว นักลงทุนบางคนอาจไม่มีปัญหากับการลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ในหุ้น แต่หลายๆ คนก็อาจต้องการเสถียรภาพผ่านการาลงทุนในตราสารหนี้มากกว่า

การลงทุนในหุ้นที่สัดส่วนราวๆ 60% ต่อตราสารหนี้ 40% จะเป็นสัดส่วนที่กำลังดี แต่ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เรารับได้ด้วยนะ หากไม่ได้มีปัญหาหรือต้องการสภาพคล่องทางการเงิน ก็อาจปรับเพิ่มได้การลงทุนในหุ้นที่สัดส่วนสูงก็อาจเสี่ยงเกินไป โดยมากหากสัดส่วนหุ้นอยู่ที่น้อยกว่า 40% ต่อตราสารหนี้มากกว่า 60% จะเป็นสัดส่วนที่กลางๆ ไม่เสี่ยงมากไป เพราะบางครั้งการลงทุนระยะยาวอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการเพิ่มมูลค่า และอาจทำให้การใช้จ่ายหาความสุขช่วงเกษียณสำราญไม่ราบรื่นอย่างที่ควร

วัย 60+ หรือ วัยเกษียณ
การลงทุนในหุ้นที่สัดส่วนสูงก็อาจเสี่ยงเกินไป โดยมากหากสัดส่วนหุ้นอยู่ที่ 40% ต่อตราสารหนี้ จะเป็นสัดส่วนที่กลางๆ ไม่เสี่ยงมากไป เพราะชีวิตเข้าสู่ช่วงบั้นปลายแล้ว การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ สภาพคล่องสูงจะให้ผลที่ดีกว่า การลงทุนระยะยาว อาจไม่เหมาะ เพราะอายุมากแล้ว อาจจะต้องมีการใช้เงินมากขึ้น แต่หากมีรายได้เข้ามาอยู่เรื่อย ๆ ก็ยังสามารถลงทุนในระยะยาวได้อยู่นะ

สำหรับนักลงทุนวัยเกิน 70 ปีขึ้นไป
หากยังรู้สึกสนุกกับการลงทุน การลงทุนในตราสารหนี้หรือกองทุนระยะสั้นก็ช่วยให้เงินลงทุนเติบโตได้ และหากต้องการความท้าทาย การเล่นหุ้นแบบ Day Trade แบบใช้เม็ดเงินไม่สูง เล่นสนุกๆ ก็ยังทำได้หากใจต้องการ

ทาง Chulagradeup หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะ

ที่มา : InvestDD

Scroll to top